พัฒนาการเด็ก: วิธีแปรงฟันให้เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 6 ขวบ คู่มือเลี้ยงลูก หนังสือเสริมพัฒนาการ ของเล่นเสริมพัฒนาการ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารเด็ก เด็กสองภาษา ดนตรีเพื่อลูกรัก นิสัยการนอน ฟันน้ำนมซี่แรก ภาษาลูกน้อย หน้าที่ของบิดามารดา เลี้ยงลูกให้ฉลาด เสริมสร้างความภูมิใจให้ลูก คู่มือเลี้ยงเด็ก



พัฒนาการเด็ก
ยินดีต้อนรับสู่ แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับลูกน้อย
พัฒนาการลูกรัก ♥ ช้าไม่ได้ อ่านเลยนะคะ
ถ้าเห็นว่าเว็บไซต์นี้ดีมีประโยชน์ โปรดช่วยบอกต่อ

วิธีแปรงฟันให้เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 6 ขวบ

เด็กแรกเกิดถึง 6 ปี

ฟันน้ำนมซี่แรก ส่วนใหญ่เป็นฟันหน้าล่าง จะขึ้นเมื่ออายุประมาณ 6 เดือน และซี่อื่นๆ จะขึ้นตามมาเป็นระยะ จนฟันน้ำนมขึ้นครบ 20 ซี่ เมื่ออายุประมาณ 2 - 2 1/2 ปี และเด็กจะต้องใช้ฟันน้ำนมนี้ไป จนกว่ามีฟันแท้ขึ้นมาแทน


(คลิกดูรูปขนาดใหญ่)

สำหรับเด็กทารกควรให้นมเป็นเวลา และควรเป็นนมแม่ ถ้าให้นมแม่ไม่ได้จำเป็นต้องใช้นมขวด และไม่ควรใช้นมข้นหวานแทนนมแม่ เพราะนมข้มหวาน จะทำให้เกิดฟันผุไว้อย่างรวดเร็ว และไม่มีคุณค่าทางอาหาร ภายหลังให้นมแม่ หรือให้ดูดนมขวด ต้องหัดให้เด็กดูดน้ำตามทันที เพื่อล้างคราบนมออกจากผิวฟัน ป้องกันการเกิดฟันผุ อย่าปล่อยให้เด็กดูดนมจนหลับ โดยมีขวดนมคาปากอยู่ จะทำให้ฟันผุทั้งปาก และผุรอบฟันทั้งซี่ ถ้าเป็นมาก เด็กจะปวดฟัน ไม่สามารถเคี้ยวอาหารได้ ดังนั้น การทำความสะอาดฟันเด็ก จึงมีความจำเป็นมาก เมื่อฟันยังไม่ขึ้น หรือขึ้นเพียง 2-3 ซี่ ควรใช้ผ้าหรือสำลีชุบ ทำความสะอาดสันเหงือก บริเวณที่ยังไม่มีฟันขึ้น และบนตัวฟันที่ขึ้นแล้ว หลังดูดนมทุกครั้ง หรืออย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน และควรหาแปรงสีฟันเล็กๆ ที่ขนแปรงอ่อนแปรงฟันให้เด็ก และควรฝึกเด็กดื่มนมจากแก้ว อย่างเป็นขั้นตอน ตั้งแต่อายุประมาณ 7-8 เดือน เพื่อให้พร้อมที่จะเปลี่ยนมาดื่มนม จากแก้ว หรือดูดหลอดได้ เมื่ออายุ 1 ถึง 1 ปีครึ่ง เป็นอย่างช้า เพื่อป้องกันการเกิดฟันผุ จากการใช้นมขวดที่ไม่ถูกวิธี

การแปรงฟัน ผู้ปกครองควรแปรงให้เด็ก ตั้งแต่มีฟันน้ำนมขึ้น จนถึงอายุประมาณ 6-8 ปี เมื่อเด็กสามารถแปรงฟันด้วยตัวเอง ได้สะอาดพอ จึงปล่อยให้เด็กแปรงฟันเอง และวิธีแปรงฟันน้ำนม จะต่างจากการแปรงฟันแท้ เนื่องจากผิวด้านข้างของฟันน้ำนม ค่อนข้างแบน ไม่ได้โค้งนูน เหมือนฟันแท้ การแปรงด้านข้างแก้ม และด้านข้างเพดาน หรือด้านข้างลิ้น จึงแปรงด้วยวิธีถูกลับไปกลับมา จากข้างหน้าไปข้างหลัง และข้างหลังมาข้างหน้า ประมาณแห่งละ 10 ครั้ง และแปรงแบบนี้ กับฟันด้านบดเคี้ยวเช่นกัน

นอกจากนี้ เพื่อเสริมให้เนื้อฟัน แข็งแรงเพิ่มขึ้น ควรปรึกษาทันตแพทย์เด็กเพื่อให้เด็กรับประทานยาฟลูออไรด์ โดยแบ่งปริมาณที่จะรับประทาน เป็นมิลลิกรับต่อวัน ตามช่วงอายุของเด็ก อย่างไรก็ตาม อย่าให้เด็กรับประทานยาฟลูออไรด์ มากเกินความจำเป็น เพราะถ้ารับประทานมากเกินไป แทนที่เนื้อฟันจะแข็งแรง กลับทำให้ฟันมีผิวฟันตกกระ หรือเป็นลายไม่สวยและกร่อน  สิ่งที่ต้องระวัง คือ ต้องเก็บฟลูออไรด์ในที่ซึ่งหยิบไม่ถึง และให้ผู้ใหญ่หยิบให้รับประทานทุกครั้ง ถ้าเด็กรับประทานฟลูออไรด์เกินขนาด จากการหยิบมารับประทานเอง ให้ดื่มนมมากๆ ทันที หรือทำให้อาเจียน แล้วนำส่งโรงพยาบาล เด็กเล็กที่ยังรับประทานยาเม็ดไม่ได้ ให้ใช้ชนิดน้ำหยดเข้าปากโดยตรง หรือผสมน้ำ ถ้าใช้ชนิดเม็ด ให้บดก่อนและละลายน้ำ เมื่อเด็กโตพอรับประทานยาเม็ดได้ ให้ใช้ชนิดเม็ด โดยให้อมทั้งเม็ด ปล่อยให้ฟลูออไรด์ละลายช้าๆ ในปาก ห้ามเคี้ยวเพื่อให้ฟลูออไรด์ซึมเข้าผิวฟัน และควรรับประทานขณะท้องว่าง เพื่อให้มีการดูดซึมได้มากที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับฟลูออไรด์มากเกินไป จากการกลืนยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ในเด็กอายุน้อยกว่า 6 ปี ให้ผู้ใหญ่บีบยาสีฟัน ให้ในขนาดเท่าเม็ดถั่วเขียว (น้อยกว่า 5 มม.) สำหรับเด็กเล็กที่ยังบ้วนน้ำไม่เป็น ไม่แนะนำให้ใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์

อ้างอิงข้อมูล โรงพยาบาลโพนทอง
เรียบเรียงโดย ทีมงานพัฒนาการเด็ก

ถ้าเห็นว่าบทความนี้ดีมีประโยชน์กรุณาช่วยบอกต่อด้วยนะคะ 

1 comments:

คุณแม่น้องนีน่า on 11 พฤศจิกายน 2556 เวลา 10:27 กล่าวว่า...

ลูกสาวชอบแปรงฟันเอง แต่ว่าไม่ค่อยทั่วถึง คุณแม่ต้องคอยช่วยแปรงซ้ำให้ บางครั้งต้องเปิดคลิปให้ดู แปรงฟันไป ร้องเพลงไป ^^

แสดงความคิดเห็น

 

Copyright © 2011 - 2016 พัฒนาการเด็ก ส่งเสริมพัฒนาการเด็ก เลี้ยงลูกรักให้มีความสุขสมวัย